6 เหตุผล ที่ทำให้ธุรกิจ Food Delivery ในประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด

ไขข้อข้องใจ แยกขยะยังไงให้ได้ประโยชน์ที่สุด?
เมษายน 6, 2020
7 เคล็ดลับ ทำธุรกิจอาหารเดลิเวอรี ให้ประสบความสำเร็จ
7 เคล็ดลับ ทำธุรกิจอาหารเดลิเวอรี ให้ประสบความสำเร็จ
เมษายน 26, 2020
 
Food Delivery หรือธุรกิจขายอาหารออนไลน์ หนึ่งในธุรกิจมาแรงในปี 2020 และมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้มากขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งหากนับจากปี 2018 ร้านอาหารแบบหน้าร้านออนไลน์มีอยู่เพียง 800 ร้านค้า แต่ในปี 2019 จำนวนร้านอาหารออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นกว่าร้อยละ 50 และดูเหมือนในปี 2020 นี้ จะเพิ่มขึ้นกว่าอีกเท่าตัว ไปดูกันดีกว่าค่ะว่า ทำไมธุรกิจ Food Delivery ถึงเติบโตได้แบบก้าวกระโดดขนาดนี้

Food Delivery ได้ดิบได้ดี เพราะความขี้เกียจ

 
 
 
 
ในยุคดิจิตอลที่เทคโนโลยีสามารถตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้ทุกอย่าง ส่งผลให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนเปลี่ยนไป กลายเป็นคนรักสบาย ไม่ชอบรอ และขี้เกียจ คนไทยก็เช่นกัน มีผลสำรวจพบว่า 10 อันดับกิจกรรมที่คนไทยขี้เกียจทำมากที่สุด 1 ในนั้น คือการทำอาหาร รวมไปถึง การรอคิวซื้อของ และการออกเดินทางไปไหนมาไหน ติดโพลเข้ามา ด้วยความขี้เกียจนี้เอง ส่งผลให้ธุรกิจ Food Delivery ที่สามารถตอบโจทย์เรื่องความสะดวกสบาย เติบโตขึ้นได้ไม่ยาก

Food Delivery ธุรกิจซื้อเวลา ที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตอันเร่งรีบ

ความเป็นสังคมเมืองที่บังคับให้ผู้คนใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ ผู้คนเริ่มบริหารเวลากันมากขึ้น ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตส่วนใหญ่จึงเน้นไปที่ความรวดเร็ว ยอมจ่ายเงินให้กับความสะดวกสบาย เพราะถือเป็นการซื้อเวลา ซึ่งบริการ Food Delivery ถือเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้ ลองจินตนาการดูว่า ถ้าคุณเกิดหิวและต้องเดินทางไปร้านอาหารเพื่อซื้ออาหาร เริ่มแรกคือต้องอาบน้ำแต่งตัว ออกไปเจอกับปัญหาการจราจร วนหาที่จอดรถ แถมยังต้องรอคิว กว่าจะได้ทานอาหารซัก 1 มื้อ กลับเสียเวลาไปกว่าครึ่งวัน ต่างจากการสั่งอาหารออนไลน์ เพียงแค่กดสั่งแล้วนั่งรอ แถมยังเอาเวลาที่รอไปทำอย่างอื่นได้อีก เรียกว่าประหยัดเวลาและสะดวกสบายกว่ามาก
 
 
 
 
อุณหภูมิและมลพิษทางอากาศ หนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ Food Delivery เติบโต อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Food Delivery มียอดขายพุ่งพรวด คือ เรื่องของอุณหภูมิและมลพิษทางอากาศ ในภาวะปกติ อากาศร้อนๆ บวกกับฝุ่นควันจากท่อไอเสียก็ชวนให้หงุดหงิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อมีเรื่องของปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ร่วมด้วย ก็ยิ่งทำให้ผู้คนไม่อยากออกจากบ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับมลพิษเหล่านี้ และหันมาใช้บริการสั่งอาหารออนไลน์แทน ซึ่งถ้าถามว่าในช่วงปัญหาฝุ่น PM2.5 ธุรกิจอาหารออนไลน์ยอดขายพุ่งสูงมากแค่ไหน ก็ต้องบอกว่าเฉลี่ยรวมแล้ว มีออเดอร์กว่า 5 แสนออเดอร์ต่อสัปดาห์เลยทีเดียวค่ะ

Social Distancing จากโรคระบาด นำพาให้ยอดขาย Food Delivery พุ่งสูง

นอกจากปัญหาฝุ่นควัน โรคระบาดก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ Food Delivery ในประเทศไทยเติบโต นับตั้งแต่เกิดโรคระบาดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 บวกกับมีการประกาศเคอร์ฟิวส์และเพิ่มมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ยอดสั่งอาหารออนไลน์ก็พุ่งสูงขึ้นถึง 3 เท่า จากทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่
 
 
 
 

Food Delivery เติบโตได้เพราะช่วงเปลี่ยนผ่านของเจนเนอเรชัน

จากผลการรวบรวมข้อมูลกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการ Food Delivery พบว่ากลุ่มลูกค้าหลัก คือ กลุ่มมิลเลนเนียล (Millennial) หรือมนุษย์ Gen Z และ Gen Y ที่มีช่วงอายุระหว่าง 18-34 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่เติบโตมากับเทคโนโลยี ความทันสมัย และปัจจุบันถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของเจนเนอเรชั่น กลุ่มมิลเลนเนียล กลายมาเป็นประชากรกลุ่มหลัก ที่เริ่มมีบทบาทและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจหลายๆ อย่างในบ้านเรา รวมถึงธุรกิจ Food Delivery

อีกหนึ่งอย่าง ที่ได้จากการสำรวจ พบว่าคนกลุ่มนี้ทานข้าวนอกบ้านน้อยลง และจะยกให้มื้ออาหารนอกบ้านเป็นมื้อพิเศษ ถือเป็นมื้อสังสรรค์ ต้องมีการนัดรวมตัว หรือมีโอกาสพิเศษอื่นๆ เท่านั้น ถึงจะยอมสละเวลา ออกไปเผชิญกับรถติดและฝุ่นควัน เพื่อทานข้าวนอกบ้าน ดังนั้นในมื้ออื่นๆ จึงเน้นง่ายและสะดวก อย่างการสั่งอาหารออนไลน์นั่นเอง

การเกิดขึ้นของธุรกิจผู้ให้บริการ Delivery ส่งผลให้ Food Delivery เติบโต

 
 
 
 
 
 
การเกิดขึ้นของธุรกิจเดลิเวอรี เช่น Line Man, Food Panda, Grab food, Get food หรือ Lalamove เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้การขายอาหารออนไลน์ได้รับความนิยมและเติบโตอย่างพุ่งพรวด เพราะธุรกิจนี้ตอบโจทย์ทั้งเรื่องความรวดเร็ว สะดวก สบาย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตของคนขี้เกียจได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าขยับนิ้วไม่กี่ทีก็มีอาหารร้อนๆ มาเสิร์ฟให้ถึงที่ ทั้งยังมีโปรโมชัน ลด แลก แจก แถม คนส่วนใหญ่จึงมองว่าการสั่งอาหารออนไลน์ประหยัดกว่าการเดินทางไปที่ร้านด้วยตัวเอง จากเหตุผล 108 ที่เรายกมานี้ คงพอมองเห็นแล้วใช่มั้ยคะว่า Food Delivery เป็นตลาดเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรง จนส่งผลกระทบไปถึงร้านอาหารที่ไม่มีหน้าร้านออนไลน์ ให้เริ่มเสียเปรียบ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าร้านอาหารออนไลน์ทุกร้านจะขายดิบขายดีจนมียอดออเดอร์เป็นแสนๆ เพราะหัวใจสำคัญของการขายอาหาร คือการรักษาคุณภาพของเมนูอาหารเอาไว้ให้ได้ แล้วไม่ว่าคุณจะมีหน้าร้านออนไลน์หรือไม่ ขอแค่อาหารอร่อยและคุณภาพดี เท่านี้ก็มีลูกค้าต่อคิวยาวเหยียดแล้วล่ะค่ะ
 
 
 
 
ดังนั้น ไม่ว่าใครที่ตอนนี้กำลังคิดจะเปิดร้านอาหารหรืออยากส่งร้านอาหารของตัวเองเข้าสู่สมรภูมิเดลิเวอรี คุณต้องรักษาคุณภาพของวัตถุดิบและรสชาติให้สม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกค้าได้ทานอาหารที่มีคุณภาพที่สุดในทุกๆ มื้อ และอย่าลืมให้ความสำคัญกับบรรจุภัณฑ์ใส่อาหาร (Packaging) ไม่ว่าจะกล่องข้าว จาน หรือชาม ควรเลือกแบบมีคุณภาพและดีไซน์สวย เพราะบรรจุภัณฑ์สวยๆ จะช่วยชูให้เมนูอาหารของคุณโดดเด่นขึ้น ทั้งยังช่วยสร้างความประทับใจแรกให้กับลูกค้าได้อีกด้วย และที่สำคัญต้องเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีฝาปิดมิดชิด เพื่อป้องกันอาหารหกเลอะเทอะก่อนถึงมือลูกค้า

สำหรับผู้ประกอบการคนไหนที่กำลังมองหาบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารคุณภาพดี ฟาฟา ของเรามีจำหน่ายทั้ง กล่องข้าว ถาด ชาม และฝาปิด ที่สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้แบบสบายๆ โดยไม่ปล่อยสารก่อมะเร็ง หรือเปลี่ยนให้เป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารแช่แข็งก็ได้เช่นกัน นอกจากนั้นบรรจุภัณฑ์ของเรายังช่วยยืดอายุของผักและผลไม้ โดยช่วยชะลอการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ส่งผลให้ผักและผลไม้ที่เก็บอยู่ในบรรจุภัณฑ์ฟาฟาคงความสดเอาไว้ได้นานกว่า และที่สำคัญ บรรจุภัณฑ์ของฟาฟา เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ยึดคอนเซปตามหลัก 4R นั่นก็คือ RENEWABLE การนำวัสดุธรรมชาติที่เป็นขยะอาหารมาแปรรูปเพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่อีกครั้ง, REDUCE ลดการใช้พลาสติกจากปิโตรเคมี, REUSE แข็งแรงทนทานใช้ซ้ำได้ รวมถึง RECYCLE สามารถนำไปรีไซเคิลเป็นสินค้าอื่นๆ เพื่อช่วยลดปริมาณขยะสะสมได้อีกด้วย เรียกได้ว่าฟังก์ชันครบ แถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รับรองว่าตอบโจทย์ธุรกิจอาหารของคุณได้อย่างแน่นอน สั่งซื้อสินค้าหรือดูแคตตาล็อกผลิตภัณฑ์ ได้ที่บรรจุภัณฑ์ของฟาฟา