กินอาหารแช่แข็งอย่างไร ให้ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ?

วิธีอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมฉบับองค์กร
4 วิธีรักษาสิ่งแวดล้อมสำหรับองค์กร
พฤษภาคม 23, 2020
ส่องธุรกิจอาหารคลีน จะรุ่งหรือจะร่วง ในช่วงที่ประเทศไทยลดใช้พลาสติก
ส่องธุรกิจอาหารคลีน จะรุ่งหรือร่วง ในช่วงที่ประเทศไทยหันมาลดการใช้พลาสติก?
กรกฎาคม 26, 2020
 
อาหารแช่แข็ง (Frozen Food) มีด้วยกันหลายชนิด ทั้งผัก ผลไม้แช่แข็ง เนื้อสัตว์แช่แข็ง อาหารทะเลแช่แข็ง ฯลฯ แต่ที่ดูจะได้รับความนิยมมากที่สุด ก็คงจะเป็นอาหารปรุงสุกพร้อมทาน (Ready to eat) แบบแช่แข็ง ไม่ว่าจะเป็นซาลาเปา ติ่มซ่ำ พิซซ่า หรือข้าวกล่อง ก็มีให้เลือกหลากหลายตามความต้องการ

ทำไมอาหารแช่แข็งถึงได้รับความนิยม?


อาหารแช่แข็งมีให้เลือกหลากหลายเมนู

ปัจจุบันอาหารแช่แข็งในรูปแบบของข้าวกล่องพร้อมทาน มีให้เราเลือกมากมายหลายเมนู มีทั้งอาหารไทย อาหารญี่ปุ่น อาหารเกาหลี และอาหารตะวันตก นอกจากนั้น ยังมีอาหารแช่แข็งในรูปแบบของแพนเค้ก พิซซ่า ขนมจีบ ซาลาเปา ติ่มซ่ำ หรือเกี๊ยวน้ำร้อนๆ เรียกได้ว่า ไม่ว่าจะหิว หรือเกิดท้องร้องขึ้นมาตอนไหน อาหารแช่แข็งก็มีเมนูพร้อมตอบโจทย์ทั้งมื้อเช้า กลางวัน และมื้อเย็น

อาหารแช่แข็งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ

นอกจากมีเมนูให้เลือกหลากหลาย วิธีการปรุงยังง่ายแสนง่าย เพียงนำอาหารแช่แข็งเข้าอุ่นในไมโครเวฟแล้วรอไม่กี่นาทีก็ได้อาหารหน้าตาน่ากินกลิ่นหอมกรุ่นพร้อมทาน ร้านสะดวกซื้อในปัจจุบันยังมีบริการอุ่นฟรีแถมให้ เรียกว่าซื้อปุ๊บได้กินปั๊บ ไม่ต้องเตรียมวัตถุดิบ ไม่ต้องซื้อเครื่องปรุง หรือเครื่องครัวเองให้ยุ่งยาก ช่วยลดเวลาในการเตรียมอาหาร ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบของผู้คนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี
 
 
 
 
ถึงจะได้รับความนิยมมาก แต่ก็มีผู้คนอีกหลายกลุ่มบอกว่าอาหารแช่แข็งนั้นไม่มีประโยชน์ ทั้งยังมีข้อกังขาต่างๆ อีกมากมาย เช่น อาหารแช่แข็งนั้นมีคุณค่าและสารอาหารเทียบเท่าอาหารปรุงสดหรือไม่? หากกินอาหารแช่แข็งบ่อยๆ จะเป็นอันตรายต่อร่างกายรึเปล่า? วันนี้ฟาฟาจะพาทุกคนไปไขข้อสงสัยนี้กัน!!

อาหารแช่แข็ง ‘ไม่มี’ ประโยชน์จริงหรือ?

ก่อนจะตอบคำถามนี้ ลองไปดูข้อมูลของอาหารแช่แข็ง และการแช่แข็งอาหารที่เรานำมาฝากกันเลยครับ

การแช่แข็ง (Frozen) เป็นวิธีถนอมอาหารรูปแบบหนึ่ง

การแช่แข็งอาหารเป็นวิธีการถนอมอาหารรูปแบบหนึ่ง โดยการนำวัตถุดิบสด หรืออาหารปรุงสุกไปลดอุณหภูมิลง ให้ต่ำกว่า -18 องศาเซลเซียส ทำให้น้ำในอาหารเปลี่ยนสถานะกลายเป็นของแข็ง จุลินทรีย์ในอาหารที่เคยดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยน้ำ จึงไม่สามารถเจริญเติบโตได้ การแช่แข็งอาหารจึงช่วยยับยั้งการเพิ่มปริมาณของจุลินทรีย์ ทำให้อาหารไม่บูดเน่า เก็บเอาไว้ได้นานขึ้น ซึ่งกระบวนการนี้ไม่ได้ลดทอนคุณค่าและสารอาหารลงแต่อย่างใด

ดังนั้น อาหารแช่แข็ง ก็คืออาหารที่ผ่านกระบวนการถนอมอาหารโดยวิธีแช่แข็ง (Frozen) ทำให้เก็บเอาไว้ได้นานขึ้น โดยที่ยังคงคุณค่าสารอาหาร ความสดของวัตถุดิบ และคงรสชาติได้ดีดังเดิม และไม่เป็นโทษต่อร่างกาย
 
 
 
 
แล้วทำไมหลายคนถึงบอกว่าอาหารแช่แข็งไม่มีประโยชน์ กินแล้วอ้วนง่าย ทั้งยังอันตราย เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง? นั่นเป็นเพราะส่วนประกอบต่างๆ อย่างอื่น เช่น การคัดเลือกวัตถุดิบ วิธีการปรุง ผงชูรส สารปรุงแต่ง รวมถึงบรรจุภัณฑ์ เพราะฉะนั้น ไปดูกันต่อดีกว่าค่ะว่า ถ้าอยากจะกินอาหารแช่แข็งให้ปลอดภัย และได้ประโยชน์ต่อสุขภาพจริงๆ จะมีวิธีการเลือกกินอย่างไร

กินอาหารแช่แข็งอย่างไร ให้ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ

ตรวจดูวันหมดอายุที่ฉลากอาหารแช่แข็งให้ดี

แม้อาหารแช่แข็งจะเก็บไว้ได้นาน ก็มีวันหมดอายุเช่นกัน ก่อนซื้ออาหารแช่แข็งจึงควรตรวจสอบวันผลิตและวันหมดอายุให้ดี เพราะร้านสะดวกซื้อบางร้านอาจเก็บอาหารแช่แข็งไว้นานโดยไม่ได้ตรวจสอบ และทางที่ดีไม่ควรซื้ออาหารแช่แข็งที่ไม่มีฉลากระบุวันผลิตและวันหมดอายุ นอกจากนั้น หากซื้อมาแล้วยังไม่ได้รับประทาน ก็ควรเก็บอาหารแช่แข็งเข้าช่องฟรีซในตู้เย็นทันที อย่าปล่อยให้ละลาย ไม่เช่นนั้นจุลินทรีย์ที่ถูกสตาฟเอาไว้จะกลับมามีชีวิต ทำให้อาหารแช่แข็งของเราเสียรสชาติ คุณค่าทางโภชนาการลดลง และเน่าเสียง่ายขึ้นนั่นเอง

เลือกอาหารแช่แข็งที่เป็นเมนูสุขภาพ

อาหารแช่แข็งมีเมนูให้เลือกหลากหลาย แต่ถ้าอยากกินอาหารแช่แข็งให้ได้ประโยชน์จริงๆ ก็ต้องเลือกอาหารแช่แข็งที่เป็นเมนูสุขภาพ เช่น เมนูที่ใช้ข้าวไม่ขัดสี ข้าวกล้อง หรือข้าวไรซ์เบอร์รี่ เน้นเมนูที่มีผักเป็นส่วนประกอบ และอาจเลือกเมนูที่เป็นเนื้อสัตว์ย่อยง่าย เช่น ปลา หรือไก่ ซึ่งแคลอรีต่ำกว่าอาหารแช่แข็งที่มีแต่เนื้อสัตว์ติดมัน นอกจากนั้น อาจเลือกอาหารแช่แข็งที่เป็นเมนูปรุงน้อยๆ รสชาติไม่จัดจ้าน จะช่วยลดปริมาณเกลือ และโซเดียมไปได้มากเลยทีเดียวค่ะ
 
 
 
 

กินอาหารแช่แข็งให้ได้ประโยชน์ ต้องดูฉลากโภชนาการ

ฉลากโภชนาการจะช่วยให้เรารู้ปริมาณแคลอรีทั้งหมดของอาหาร ทั้งยังบอกปริมาณสารอาหารต่างๆ ที่จะได้รับ การกินอาหารแช่แข็งให้ได้ประโยชน์ และไม่เป็นโทษต่อร่างกาย จึงควรดู และพิจารณาตารางโภชนาการบนฉลากให้ละเอียด

สิ่งแรกที่ต้องดู คือ ปริมาณแคลอรีโดยรวม จะให้ดีควรเลือกอาหารแช่แข็งที่ให้พลังงานราว 300-400 แคลอรี และควรมีไขมันอยู่ไม่เกิน 8 กรัม นอกจากนั้น ควรเลือกอาหารแช่แข็งที่มีปริมาณของโปรตีนเพียงพอ และมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตไม่สูงจนเกินไป

ต่อมา คือดูปริมาณของโซเดียม โดยปกติแล้วร่างกายของคนเราต้องการโซเดียม 2,400 มิลลิกรัมต่อวัน แต่อาหารแช่แข็ง โดยเฉพาะอาหารแช่แข็งแบบข้าวกล่องพร้อมทานมักมีปริมาณโซเดียมอยู่มากเป็นพิเศษ ในบางกล่องอาจมีโซเดียมมากถึง 1,200 มิลลิกรัมต่อกล่อง หากเราบริโภคโซเดียมมากเกินไป จะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว ทำให้เกิดไตวาย โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดได้ ทางที่ดี ก่อนซื้ออาหารแช่แข็ง ควรดูปริมาณโซเดียมอย่าให้มากเกิน 800 มิลลิกรัม หรือเรียกว่ายิ่งน้อยยิ่งดี เพื่อสุขภาพนะครับ

เลือกกินอาหารแช่แข็งที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่สมบูรณ์ และสามารถเข้าอุ่นในไมโครเวฟได้

 
 
 
 
อาหารแช่แข็งพร้อมทานส่วนใหญ่ จะมาในบรรจุภัณฑ์แบบกล่องพลาสติกมีฝาปิด ถึงจะดูสะอาดและมิดชิดดีแล้ว แต่เราอยากให้คุณลองตรวจสอบดูอีกสักนิดก่อนซื้อ ว่าบรรจุภัณฑ์นั้นสมบูรณ์ดี ไม่มีรูรั่ว ไม่ฉีกขาด และไม่มีรอยเปื้อน เพราะหากบรรจุภัณฑ์ชำรุด นอกจากจะทำให้อาหารแช่แข็งเสียคุณภาพแล้ว เมื่อนำเข้าอุ่นในไมโครเวฟ บรรจุภัณฑ์อาจละลายบิดเบียว และอาจมีพลาสติก หรือสารพิษละลายไปปนเปื้อนกับอาหาร ซึ่งการทานอาหารที่ปนเปื้อนพลาสติกบ่อยๆ จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งขึ้นในร่างกายนั่นเอง นอกจากนั้น บรรจุภัณฑ์ที่ดีต่อการบรรจุอาหารแช่แข็ง ต้องเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ทนทานต่ออุณหภูมิต่ำ ช่วยปกป้องอาหารจากแสงแดด และควรทำมาจากพลาสติกเกรดที่สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้ หรือสังเกตง่ายๆ คือมองหาบรรจุภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ Microwave Safe ก็ได้ครับ

หากคุณกำลังมองหาบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับธุรกิจอาหารแช่แข็ง หรืออยากได้บรรจุภัณฑ์ / ภาชนะ สำหรับใส่อาหารแช่แข็งอุ่นทานเองที่บ้าน บรรจุภัณฑ์ของฟาฟา ไม่ว่าจะถาดใส่อาหาร ชาม หรือกล่องข้าว ทั้งหมดนี้ ผลิตมาจากวัสดุธรรมชาติ ที่สามารถใช้งานกับไมโครเวฟได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังสามารถนำมาเป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารแช่แข็งได้ถึงอุณหภูมิ -40 องศาเซลเซียส ได้คุณภาพตามมาตรฐาน GMP และ HACCP ให้คุณมั่นใจได้เลยว่าบรรจุภัณฑ์ของเราปลอดภัยจากสารพิษอันตราย ปราศจากโลหะหนัก และสารก่อมะเร็งแน่นอน สนใจสินค้าฟาฟา หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกฟาฟา